ในงานวันเดอร์ฟรุ๊ต 2019 ครั้งที่ผ่านมา ไมเนอร์ – เพชรดา ปาจรีย์ หรือ Unnamedminor ศิลปินชิบาริได้มาร่วมงานกับเราด้วย โดยได้นำศิลปะการผูกมัดเรือนร่างด้วยเชือกหรือ “ชิบาริ” มาโชว์ให้ทุกคนได้ตื่นตาตื่นใจกัน รวมถึงจัดเวิร์คช็อปให้เหล่าวันเดอเรอร์ที่สนใจได้มาลองรู้จักศาสตร์แห่งพันธนาการนี้อีกด้วย
สำหรับในช่วงที่หยุดอยู่บ้าน เราอยากพาทุกคนไปเปิดโลกชิบาริให้มากขึ้นในบทสัมภาษณ์กับไมเนอร์ด้านล่างนี้ ซึ่งศิลปะประเภทนี้ไม่เพียงนำเสนอสุนทรียศาสตร์ในเรือนร่างของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังแสดงถึงการเชื่อมความสัมพันธ์และสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจผ่านการทำงานร่วมกันของคนมัดและคนที่ถูกมัดอีกด้วย
ในบทสนทนาที่พูดคุยกับไมเนอร์มีเนื้อหาที่เป็นความสนใจเฉพาะกลุ่ม เราแนะนำให้คุณทำความเข้าใจโดยใช้วิจารณญาณและเปิดใจเรียนรู้ไปพร้อมกัน
ขอบคุณภาพประกอบจาก Unnamedminor
Wonderfruit:
อะไรคือสิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอย่างแรกสำหรับผู้ที่อยากทดลองงานมัดชิบาริ
Unnamedminor:
สิ่งที่ควรคำนึงถึงสำหรับผู้ที่สนใจในงานมัดชิบาริคือเรื่องของ consent, negotiation และ safety สำหรับผู้มัดต้องได้รับการยินยอมจากคู่ของเราก่อนการมัดเสมอ ต่อจากนั้นคือ การสร้างข้อตกลงระหว่างกันก่อนว่า แต่ละคนต้องการให้มันเป็นไปในทิศทางแบบไหน เช่น รูปแบบการเพลย์แบบ BDSM ที่ชอบ มัดแบบลอยตัว (suspension) หรือมัดที่พื้น (floor work) ทำอะไรได้บ้างระหว่างการมัด เป็นการบอกรสนิยมการเล่นของแต่ละคนที่ชอบเพื่อหาข้อตกลงระหว่างกัน เช่น สัมผัสได้มากน้อยแค่ไหน เล่นรุนแรงอะไรได้บ้าง ตีได้ไหม ตบได้ไหม บีบคอได้รึเปล่า หรืออื่นๆ ข้อจำกัดของเราอยู่ตรงไหน และ safe word ที่ใช้คืออะไร เพื่อให้คนที่โดนมัดใช้บอกเมื่อต้องการจะบอกว่าทนไม่ไหวแล้วและต้องการหยุดการเล่นนี้
เรื่องของความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในงานชิบาริ เพราะงานมัดเป็นงานที่อันตราย เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและข้อผิดพลาดที่คาดไม่ถึงได้อยู่ตลอดเวลา ทั้งคนมัดและผู้ถูกมัดต้องคำนึงถึงความปลอดภัยตลอดเวลาระหว่างการเล่น จะเล่นแบบตามใจตัวเองฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะถ้าเกิดผิดพลาดอะไรขึ้นมา สิ่งที่เราต้องรับผิดชอบคือชีวิตทั้งชีวิตของอีกคนหนึ่งเลยนะ
การใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมก็สำคัญ เชือกที่ใช้มัดคนควรเป็นเชือกเฉพาะเท่านั้น (เชือกที่เนอร์ใช้เรียกว่า ogawa jute rope ค่ะ) และหลังการใช้ไปสักพักควรมีการถนอมและทำความสะอาดเชือกด้วยซึ่งแต่ละคนก็จะมีเทคนิคในการทำ rope treatment ต่างๆ กันไป สำหรับเชือกชนิดอื่นก็พอใช้ได้ค่ะ พวกเชือก nylon หรือ cotton แต่แนะนำว่าควรใช้แค่ในการเล่นที่ไม่ได้มีการมัดเยอะมาก เน้น scene play แบบอื่นๆ มากกว่า
WF:
แล้วจะเริ่มต้นร่วมงานกับคนอื่นอย่างไร
UM:
ถ้าเราเพิ่งเริ่มหัดมัด อยู่คนเดียวก็เน้นมัดตัวเองเล่นไปก่อนค่ะ เพื่อทบทวนและฝึกฝนวนไป จนกว่าจะหาคู่มัด กลุ่มมัด หรือเจอคนที่แนะนำให้เราไปร่วมงานด้วยได้ เนื่องจากงานมัดเป็นงานเฉพาะกลุ่มที่ค่อนข้างปิด (rope jam meeting) การขอเข้าร่วมจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก นอกจากเจ้าของงานจะเป็นคนยอมรับให้เข้าร่วมเอง ด้วยวัฒนธรรมที่มีข้อห้ามและข้อจำกัดในเรื่องของการแสดงออกทางรสนิยมทางเพศถูกถือว่าเป็นเรื่องไม่ดีไม่งามต่อสังคมที่รวมไปถึงการดำเนินชีวิต งานมัดถูกมองว่าเป็นเรื่องหวือหวาทางเพศ คนมัดคือพวกวิตถาร คนไปดูงานคือพวกฉกฉวยทางเพศ ดังนั้นการจะเข้าถึงกลุ่มของงานมัดเพื่อไปศึกษาหาประสบการณ์ความรู้ของคนไทยในประเทศไทยไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคนที่เพิ่งเริ่ม การหาคู่มัดก็เช่นกัน คนที่พร้อมเล่นด้วยรสนิยม จริต การเปิดใจเข้าใจที่จะยอมรับทุกอย่างของกันและกันได้จริงๆ ยิ่งกับคนไทยด้วยกันเองถือว่าหาได้ยากมากหรือนานเป็นปีกว่าจะเจอ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง ราวกับว่ามันเป็นวงโคจรที่แฝงไปด้วยโชคชะตาอันลี้ลับที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ ไม่ต่างอะไรกับการหามิตรภาพดีๆ ไว้ข้างกายเลยค่ะ
WF:
ทำไมชิบาริถึงเป็นงานที่ต้องอาศัยการฝึกฝน
UM:
งานมัด “ชิบาริ” ถือว่าเป็น “ศาสตร์ของการมัด” อย่างหนึ่งที่เราควรต้องศึกษาหาความรู้ให้ดีก่อนที่จะลงมือทำ เพราะด้วยรายละเอียดของงานมัดและสิ่งที่ควรระวังมีค่อนข้างเยอะ การดูและศึกษาจากเพียงแค่รูปภาพ คลิปวิดีโอจาก Youtube หรือจากหนังสือมันไม่เพียงพอ ควรมีผู้ที่มีความรู้และมีประสบการณ์ตรงเป็นผู้สอน งานมัดจะพัฒนาได้ก็ด้วยการฝึกฝนมัดบ่อยๆ ดังนั้นการมีอาจารย์ที่คอยชี้แนะจะทำให้พัฒนาฝีมือได้ดีที่สุดค่ะ
WF:
ไมเนอร์เริ่มทำงานมัดชิบาริตั้งแต่เมื่อไร
UM:
เนอร์เริ่มจากการศึกษาเองและฝึกมัดตัวเองเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพราะเริ่มด้วยการศึกษาเอง ลองมัดตัวเองก่อนจึงทำให้รู้ถึงข้อผิดพลาดที่สามารถเกิดขึ้นได้เยอะมากจริงๆ หลังจากนั้น 1 ปี ก็ได้มีโอกาสเรียนชิบาริกับอาจารย์ชาวต่างชาติหลายๆ ท่านทั้งฝั่งงานมัดเอเชียและยุโรป ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ค่ะ
WF:
สิ่งสำคัญที่สุดที่ไมเนอร์ได้เรียนรู้จากชิบาริคืออะไร
UM:
สิ่งที่ทำให้เนอร์ได้เรียนรู้มากที่สุดในงานมัดคือ ความน่าสนใจของสรีระมนุษย์กับข้อจำกัดของแต่ละคนที่มีไม่เหมือนกันของผู้ที่เป็นแบบ แต่สิ่งที่ประทับใจที่สุดของงานมัด คือเรื่อง touching ของความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างเรากับแบบขณะมัด มันเหมือนการได้ทำความรู้จักกัน บอกเล่าเรื่องราวของกันและกันผ่านการสัมผัสโดยไม่มีการพูดคุย connect อารมณ์ การเอาใจและปลอบประโลม เร้าโลมกระตุ้นอารมณ์กันผ่านแค่เส้นเชือก เนอร์มองว่าตรงนั้นทำให้เนอร์ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ ของชีวิตได้ดีเลยนะ การได้เจอคนที่เข้ากันได้ มันดีมากกว่าแค่การได้เรียนรู้เทคนิคการมัดที่ต่างๆ กันไปเยอะเลยค่ะ มันทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่โดดเดี่ยว
WF:
ชิบาริได้สอนอะไรให้กับเราบ้าง
UM:
สำหรับเนอร์ งานมัดคืองานอดิเรก และงานอดิเรกมีไว้ตอบสนองความต้องการส่วนตัวของตัวเองให้สนุกในมุมพักผ่อน สอนให้เรามีสติตลอดเวลาที่มัด พร้อมเล่นแบบอื่นต่อ สอนให้เรารู้จักสนใจการเอาใจใส่ในทุกรายละเอียด ทั้งๆ ที่เคยมองว่ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่ต้องใส่ใจ เพราะเนอร์ถือว่านั่นคือชีวิตของคนอีกคนนึงที่เขายินยอมฝากไว้อยู่กับเรา เราต้องเคารพเขาตรงจุดนั้นด้วย
WF:
ช่วยแนะนำแหล่งข้อมูลสำหรับคนที่อยากเริ่มงานมัดชิบาริให้หน่อย
UM:
แนะนำตัวเองค่ะ มอบความรู้ทั้งหมดที่ตนเองมีให้เลย 555 สำหรับคนที่อยากศึกษางานมัด หรือแค่พูดคุยสอบถามความรู้เบื้องต้น หรือสนใจอยากลองเป็นแบบงานมัด ยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำให้ได้หมดค่ะ ดีใจเสมอเมื่อรู้ว่ามีคนสนใจงานมัดและมีรสนิยมความชอบแบบเดียวกัน อย่าไปลองทำเองเลย เพราะมันอันตรายจริงๆ ส่วนงานมัดชิบาริที่มีให้ศึกษาออนไลน์ตอนนี้ เนอร์แนะนำ Shibari Study ค่ะ ค้นหาใน ig ได้เลย
WF:
ในตอนแรกเราขอให้ไมเนอร์แนะนำงานมัดแบบ DIY ที่ทำเองได้ที่บ้าน แต่ไมเนอร์เห็นว่าไม่เหมาะสมเท่าไรนัก เลยอยากทราบว่ามีข้อผิดพลาดอะไรที่อาจจะเกิดขึ้นได้บ้างสำหรับผู้ที่ทดลองครั้งแรก
UM:
เนอร์มองว่างานมัดชิบาริควรศึกษาพื้นฐานเบื้องต้นให้ดีก่อนที่จะนำไปพัฒนาเป็นงาน DIY หรือเป็นงานมัดในรูปแบบอื่นๆ ต่อ ถ้าเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลยมันก็คงไม่ต่างอะไรไปกับรูปแบบงานมัด/ถัก/ทอ ศิลปะ art crafts แบบที่เราเห็นได้ทั่วไปค่ะ เพราะชิบาริคือศาสตร์ของการมัด ในรูปแบบของการพันธนาการด้วยเชือกเพียงเท่านั้น และคนโดยทั่วไปยังมีความรู้ความเข้าใจในศาสตร์นี้ที่น้อยมาก และโดยส่วนใหญ่มักมองว่าเน้นเพื่อมัดเล่นหมดดูไม่น่ายาก ดูไม่น่าจะอันตรายอะไร แค่นี้เอง ไม่เห็นยาก และนี่คือข้อผิดพลาดที่สุดที่อาจทำให้เกิดอันตรายที่ร้ายแรงได้จากความประมาทและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ด้วยคำว่าอยากลองทำดู
เราต้องคำนึงอยู่เสมอว่างานมัด (ในรูปแบบที่ง่ายหรือยากก็ตาม) คือการที่เราเข้าไปบีบรัดและกระทำต่อระบบของร่างกาย ทั้งของผู้อื่นหรือแม้แต่การมัดตัวเอง ระบบของร่างกายในที่นี้หมายถึง กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น หลอดเลือด การไหลเวียนของเลือด และเส้นประสาทที่ส่งผลต่อการทำงานของร่างกายเราทั้งหมด อีกปัจจัยที่สำคัญคือเรื่องของสุขภาพ เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายที่เป็นผู้ถูกมัดสุขภาพเป็นยังไง เป็นความดันไหม พักผ่อนเพียงพอรึเปล่า เคยผ่าตัดมาไหม? บางคนยังไม่รู้ถึงสุขภาพของตัวเอง ณ ปัจจุบันเลย แล้วคนมัดจะรู้ได้ไงว่ามัดแล้วจะหายใจออกไม่เป็นลม ไม่หน้ามืด ไม่ชา บางคนมัดมือไม่ชาแต่ไปชาที่ขาก็มี บางคนตอนมัดไม่ชาแต่ตอนแกะออกแล้วชากล้ามเนื้ออ่อนแรงไปเลย 2 อาทิตย์ก็มี (เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นกับนางแบบตัวเอง เนื่องจากก่อนหน้าที่จะมามัด นางแบบต้องแบกคอมไปเรียนและทำโปรเจกต์ทุกวันเป็นเดือน จากการสะพายกระเป๋าเป้เดินทางนานๆ ทำให้ล้าและการนั่งทำงานผิดสุขลักษณะเกิดอาการเบื้องต้น Office Syndrome โดยที่เจ้าตัวไม่แน่ใจ) ทั้งหมดนี้คือข้อควรระวังในงานมัดที่เราควรใส่ใจในรายละเอียดก่อนมัดทั้งหมดไม่ว่าจะมัดแบบไหนก็ตาม มากน้อย ยากง่าย อันตรายหมด และผลเสียจากข้อผิดพลาดมีแค่ 2 อย่าง คือไม่พิการก็ตายค่ะ นี่คือเหตุผลที่เนอร์มองว่าไม่ควรนำงานมัดมาสอนแบบดัดแปลงเล่น ซึ่งอาจทำให้คนอื่นอาจเข้าใจผิดได้ว่ามัดแค่นี้ก็ได้แล้วนี่หว่า..
WF:
แล้วเราจะหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นได้อย่างไร
UM:
เราสามารถหลีกเลี่ยงด้วยการถามคู่มัดเรา ให้เขาตอบเราทั้งหมดตามตรงแบบไม่ต้องเกรงใจ หรือได้ด้วยการเรียน ศึกษาและสอบถามจากผู้ที่มีความรู้โดยตรงเท่านั้นค่ะ หรืออาจเรียนรู้ได้จากคู่ของเราอีกทางหนึ่งด้วยการบอกทุกครั้งที่มัดด้วยกันว่าเป็นยังไงรู้สึกยังไง อันไหนแบบไหนดีหรือไม่ดียังไง จะได้แก้ไขถูกไม่ต้องลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ
WF:
มีกิจกรรมสไตล์ bondage/kink ที่เป็นความสนใจเฉพาะกลุ่มอะไรบ้าง ที่ไมเนอร์คิดว่าน่าลองทำได้ในช่วงที่เก็บตัวอยู่บ้าน
UM:
ไม่ว่าจะกิจกรรมอะไรก็ตามที่มีความ kinky เนอร์มองว่าดีงามหมดค่ะ ถ้ามีโอกาสก็ควรลองทำลองเล่นมันให้หมดสำหรับในช่วงกักตัวนี้ เราจะได้รู้จักตัวเองมากขึ้นด้วยว่าชอบแบบไหนไม่ชอบแบบไหน 555 ตอบตรงๆ เนอร์ไม่รู้จะแนะนำอะไรเพราะรสนิยมและความชอบของคนเราแตกต่างกันไป เนอร์แนะนำได้แค่ว่าถ้าอยู่กับใครก็ควรถามคู่ของคุณค่ะ ว่าเรามาลองเล่นอะไรกันดี พวกคุณน่าจะแนะนำกันเองได้ดีที่สุดกว่าคนอื่นนะ ถ้าอยู่คนเดียวคุณก็คือคนที่รู้ดีที่สุดอยู่แล้วว่าอยากลองเล่นอะไร คิดแล้วก็ลุยเลย ❤️
ถ้าเป็นคู่เนอร์ตอนนี้ คงขออีกคนจับแก้ผ้ามัด หยิบของเล่นมาแหย่แล้วฟาดกัน ทรมานกันเล่นให้ครบทุกมุมของบ้านค่ะ ผลัดกันเป็นผู้นำผลัดกันเป็นผู้กระทำ เปลี่ยนบทบาทกันบ้างเพิ่มสีสันแปลกๆ ให้ชีวิตดีนะ
ติดตามผลงานศิลปะชิบาริของ Unnamedminor ได้ทาง Instagram